ลดเหงื่อ กำจัดกลิ่นตัว
เรื่องกลิ่นตัวและเหงื่อออกใต้วงแขนเป็นปัญหาที่พบบ่อยในเขตเมืองร้อน โดยเฉพาะประเทศไทย ซึ่งส่งผลกระทบต่อบุคลิกภาพและความมั่นใจ เมื่อต้องพบปะผู้คนในสังคม โดยเฉพาะคนที่มีภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติ ทำให้อับชื้น เกิดกลิ่นตัว โดยมากจะเกิดบริเวณรักแร้และฝ่าเท้า ทำให้ต้องคอยระวังและสำรวจตัวเองตลอดเวลา
ภาวะเหงื่ออกมากผิดปกติ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
-
ภาวะเหงื่อออกมากทั่วตัว
-
ภาวะเหงื่อออกมากเฉพาะจุด เนื่องจากมีการทำงานมากผิดปกติของต่อมเหงื่อตามร่างกายเฉพาะจุด เช่น บริเวณรักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า เป็นต้น ซึ่งมักไม่ทราบสาเหตุ ผู้ป่วยมักพบว่า มีเหงื่อออกมากตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น มีเหงื่อออกใต้รักแร้จนเปียกชุ่ม หรือรู้สึกว่ามือเปียกชื้นบ่อยๆ
การรักษาภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติในที่นี้ ขอกล่าวถึงเฉพาะการรักษาภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติเฉพาะจุด ซึ่งแบ่งออกเป็น การรักษาแบบไม่ผ่าตัด และแบบผ่าตัด
1. การรักษาแบบไม่ผ่าตัด มีหลายวิธี ได้แก่
-
การใช้กระแสไฟฟ้าอ่อนๆ กระตุ้น ข้อดี คือ ผลการรักษาค่อนข้างดี ข้อเสีย คือ ระยะการออกฤทธิ์สั้น ต้องทำซ้ำหลายๆ ครั้ง เช่น ทำทุกวัน
-
การทายาเฉพาะที่ เช่น Aluminium chloride solution เป็นต้น ข้อดี คือ ใช้ง่าย ข้อเสีย คือ ผลการรักษาไม่แน่นอน และอาจมีอาการผิวแห้งบริเวณที่ทา
-
การฉีดสารสกัดโปรตีนบริสุทธิ์ หรือ ฉีดโบท็อก ในบริเวณที่มีเหงื่อออกมาก โดยสารสกัดโปรตีนบริสุทธิ์จะไปยับยั้งการสั่งงานของเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงต่อมเหงื่อทำให้การหลั่งเหงื่อลดลง ซึ่งจะเห็นผลการรักษาชัดเจนที่ 7-14 วันหลังการฉีด และผลการรักษาจะอยู่นานประมาณ 4-6 เดือน หลังจากนั้นจะเริ่มมีเหงื่อบริเวณนั้น ซึ่งสามารถกลับมารักษาซ้ำได้ ถือเป็นการรักษาที่เห็นผลชัดเจน รวดเร็ว ไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีผลกระทบต่อผิวหนังบริเวณที่รักษา มีผลข้างเคียงน้อย โดยจะมีอาการเจ็บเล็กน้อยขณะฉีดยาเท่านั้น
2. การรักษาโดยการผ่าตัด เช่น การจี้เส้นประสาทที่มาเลี้ยงต่อมเหงื่อที่ทำงานผิดปกติ (Endoscopic Transthoracic Sympathectomy, EST) หรือ การเลาะต่อมเหงื่อออก เป็นต้น