ร้อยไหม (Thread Lift)
นวัตกรรมความงามเพื่อยกกระชับใบหน้า หรือ ใช้ในการปรับรูปหน้า โดยไม่ต้องผ่าตัด เส้นไหมที่ถูกร้อยเข้าไปในชั้นผิวหนัง จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยฟื้นฟูสภาพผิว ลดริ้วรอย แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ส่งผลให้ผิวยกกระชับ ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ
ประเภทของไหม
1. ไหมแบบไม่มีเงี่ยง ใช้ร้อยเข้าไปในผิวชั้นหนังแท้ เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ฟื้นฟูสภาพผิว ไหมชนิดนี้เด่นในเรื่องลดริ้วรอย แต่การยกกระชับไม่ดีนัก
2. ไหมแบบมีเงี่ยง มีชื่อเรียกที่หลากหลาย เช่น ไหมเงี่ยง, ไหม barbed, ไหมกุหลาบ หรือ ไหมทอร์นาโด เป็นต้น ไหมชนิดนี้ใช้ร้อยเข้าไปในชั้นที่อยู่ระหว่างไขมันใต้ผิวหนังกับชั้น SMAS (Superficial Musculo Aponeurotic System) เมื่ออายุมากขึ้น ชั้น SMAS จะยืดและหย่อนตามแรงโน้มถ่วง ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย ตัวเงี่ยงของไหมจะเกี่ยวชั้น SMAS ที่หย่อนและชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ทำให้ใบหน้าถูกยกกระชับขึ้นทันที
ชนิดของไหม
1. ไหมละลาย (Absorbable Thread) คือ ไหมที่ทางการแพทย์นิยมใช้เย็บผ่าตัดอวัยวะภายใน ได้แก่ PDO (Polydioxolane), PLLA (Poly-L-Lactic acid) และ PCL (Poly Caprolactone) ไหมละลายจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวหนังบริเวณที่ร้อยไหมกระชับขึ้น
2. ไหมไม่ละลาย (Non Absorbable Thread) จะคงอยู่ถาวรในร่างกาย เช่น ไหมทองคำ หรือไหมซิลิโคน เป็นต้น
*** ปัจจุบัน การร้อยไหมในประเทศไทยนิยมใช้ไหมละลาย เนื่องจากปลอดภัย และผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาประเทศไทย
ประสิทธิภาพและผลลัพธ์ของการร้อยไหมขึ้นอยู่กับ
-
ปัญหาบนใบหน้าของคนไข้
-
การออกแบบการรักษา และการร้อยไหมของแพทย์
-
ขนาดของไหม ไหมขนาดใหญ่จะมีความสามารถในการดึงได้ดีกว่า
ปัจจัยที่มีผลต่อระยะเวลาการคงอยู่ของไหม (หลังการร้อยไหม)
-
ชนิดของไหม : ไหม PCL และ PLLA จะอยู่ได้นานกว่า PDO เมื่อเทียบกับขนาดของไหมที่เท่ากัน
-
ไหมที่ขนาดใหญ่กว่าจะอยู่ได้นานกว่า
-
กระบวนการย่อยสลายของแต่ละบุคคล และการดูแลของคนไข้หลังการร้อยไหม เช่น ไหมจะเปราะและขาดง่ายในคนไข้ที่มีการขยับหน้าตลอดเวลา
ควรร้อยไหมกี่เส้น?
แพทย์จะประเมินว่า ควรใช้ไหมแบบไหน จำนวนกี่เส้น หากคนไข้ต้องการให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น สามารถเพิ่มจำนวนไหมที่ใช้ โดยพิจารณาจาก
-
ปริมาณไขมันแต่ละจุดบนใบหน้า
-
ความหนาของผิวหนัง
-
ระดับความรุนแรงของปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย
การเตรียมตัวก่อนการร้อยไหม
-
ก่อนการร้อยไหม 1 สัปดาห์
-
หยุดยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDS เช่น Ibuprofen เป็นต้น
-
งดยา และอาหารเสริม เช่น แอสไพริน วิตามินเอ วิตามินอี น้ำมันปลา หรือ สารสกัดจากใบแปะก๊วย เพื่อลดการเกิดรอยฟกช้ำ
-
กรณีรับประทานอาหารเสริม ยา หรือ วิตามินใดๆ ต้องแจ้งแพทย์ทราบ
-
-
งดสูบบุหรี่ก่อนและหลังร้อยไหม 1 สัปดาห์
-
หากมีประวัติโรคเริม ควรแจ้งแพทย์ก่อนรักษา
-
หากมีโรคประจำตัว หรือ ทราบว่าแพ้ยาชนิดไหนต้องแจ้งแพทย์ก่อนรักษา
-
หากมีอาการแพ้ยา ต้องแจ้งแพทย์ให้ทราบทันที
การปฏิบัติตนหลังการร้อยไหม
***หลังการร้อยไหม อาจมีอาการบวม เขียวช้ำ บริเวณที่ร้อยไหม 1-2 สัปดาห์ ขึ้นกับแต่ละบุคคล
-
รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
-
งดดื่มแอลกอฮอล์ 2 วันหลังการร้อยไหม
-
1 สัปดาห์หลังการร้อยไหม
-
หยุดยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDS เช่น Ibuprofen เป็นต้น
-
งดยา และอาหารเสริม เช่น แอสไพริน วิตามินเอ วิตามินอี น้ำมันปลา หรือ สารสกัดจากใบแปะก๊วย เพื่อลดการเกิดรอยฟกช้ำ
-
-
2-3 สัปดาห์หลังการร้อยไหม
-
หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของ BHA, AHA และ Retinoid
-
พยายามขยับใบหน้าให้น้อยที่สุด หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักๆ หรือกิจกรรมที่จะกระเทือนใบหน้า
-
งดทำทรีทเมนท์ เลเซอร์ หรือนวดบริเวณที่ร้อยไหม
-
หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ร้อน เช่น ห้องซาวน่า หรือ อบไอน้ำ และเลี่ยงแสงแดดจ้า
-
เหตุผลที่ต้องเลือก AES Clinic
-
แพทย์มีประสบการณ์ในการร้อยไหม
-
ให้คำปรึกษา วิเคราะห์ใบหน้า และแก้ปัญหาได้ตรงจุด
-
มีการติดตามผลหลังการรักษา
-
ไม่มีค่าใช้จ่ายในการปรึกษาแพทย์